กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (provident fund) เป็นสวัสดิการที่นายจ้างจัดสรรให้กับพนักงานในรูปแบบของออมเงินสะสม โดยนำเงินไปลงทุนผ่านผู้เชี่ยวชาญ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จัดการบริหารเงินลงทุนในรูปแบบ ตราสารหนี้ ตราสารทุน หุ้นกู้ หุ้นสามัญ เป็นต้น
ประโยชน์ที่พนักงานประจำได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จากการสะสมยอดเงินออมส่วนหนึ่งจากเงินเดือนของตัวเอง เเละมีเงินสมทบจากทางบริษัทที่นายจ้างออกให้ ผลกำไรที่ได้จากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะถูกนำมาเฉลี่ยให้กับสมาชิกในกองทุนตามสัดส่วนเงินของแต่ละคน นอกจากนี้เงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำเงินไปใช้ ในยามเกษียณ ลาออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือกรณีที่เสียชีวิตได้
สิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี
พนักงานที่เข้าร่วมกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง ซึ่งคิดจากเงินส่วนที่ลูกจ้างจ่ายเข้ากองทุนทุกเดือน (ไม่รวมเงินส่วนที่นายจ้างจ่ายสมทบให้)
ตามกฎหมายกำหนดให้ หักลดหย่อนได้ไม่เกินจำนวนที่น้อยกว่า 15% ของค่าจ้าง หรือ 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนใดน้อยกว่ากันให้หักลดหย่อนได้ตามนั้น
ตัวอย่างการคำนวณ
- กรณีที่หักลดหย่อนไม่เกิน 15% เช่น ได้รับเงินเดือนทั้งปีรวมเป็น 800,000 บาท และมีการจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 80,000 บาท จะหักได้ตามที่จ่ายจริง คือ 80,000 บาท (ซึ่งจะไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง)
- กรณีที่หักลดหย่อนไม่เกิน 500,000 บาท เช่น ได้รับเงินเดือนทั้งปีรวมเป็น 4,000,000 บาท และมีการจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไป 600,000 บาท ซึ่งนับว่าเงินที่จ่ายสะสมนั้นจะไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง แต่เกินเพดานหักลดหย่อนสูงสุด 500,000 บาทไปแล้ว จึงหักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง 500,000 บาท
สนใจปรึกษาเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ติดต่อบลจ. พรินซิเพิล https://www.principal.th/th/provident-fund